หมอดัง นพ. ธนีย์ ธนียวัน เผยเอส กันตพงศ์ ป่วยเป็นอะไร?อาการแบบนี้ค่อนข้างชัด

นพ. ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์หมอ วิเคราะห์อาการป่วยพระเอกดัง เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ หลังวูบหมดสติกลางอีเวนต์ดีเบตเลือกตั้งจนต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

และดูอาการวันต่อวัน ซึ่ง คริสติน่า ภรรยาของเอส ได้ออกมาเผยเกี่ยวกับอาการป่วยของสามีว่า ตอนที่วูบหมดสติไปนั้น เอสหัวใจหยุดเต้นกะทันหันมีการทำ CPR จนกลับมาได้ ขณะทางแพทย์ระบุว่าเขามีอาการหัวใจอักเสบ

โดย ช่องยูทูบ Doctor Tany ของ นพ. ธนีย์ ธนียวัน ระบุว่า

คนที่ไม่มีอาการอะไรมาก่อน อายุ 36 แล้วจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติ ที่วูบหมดสติ หมอคิดว่าต้องเป็นการเต้นผิดปกติของหัวใจน่าจะเป็นหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ

ทำให้เลือดไม่สามารถบีบออกไปได้ เลือดค้างหัวใจ ไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะสมองจึงเกิดอาการหมดสติขึ้น

ในการช่วยเหลือชีวิต นอกจากการปั๊มหัวใจ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองได้ จะต้องมีการช็อกไฟฟ้า เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นด้วยจังหวะปกติแล้วทำไมจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติได้

เกิดได้ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง มีทั้งที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่รู้ตัว แล้วมาเกิดอาการตอนอายุช่วงนี้และยังมีสาเหตุอื่นอีก หมอได้ยินคำว่า “หัวใจอักเสบ” ซึ่งที่เจอบ่อยสุดเกิดจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่น ๆ ถ้าเกิดจากไวรัส จะมีอาการนำมาก่อน แต่คนอาจไม่รู้ตัว

เช่น รู้สึกเพลีย ๆ เจ็บแน่นหน้าอก แต่เป็นไม่มาก บางคนอาจคิดว่าเพราะทำงานเหนื่อยเกินไป บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อน

พวกนี้เป็นอาการนำของไวรัสที่ทำให้เกิดหัวใจอักเสบได้ แต่มันบอกลำบากมาก เพราะมันเหมือนแค่เรารู้สึกเหนื่อยธรรมดา แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา

คนสงสัยว่าเกิดจากวัคซีนโควิดหรือเปล่า คือวัคซีนโควิดที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ ไม่ได้เกิดหลังฉีดวัคซีนนานขนาดนี้ หมอไม่แน่ใจว่าคุณเอสฉีดวัคซีนไปเมื่อไร

แต่เท่าที่ได้ยินข่าว น่าจะฉีดไปนานมาก ๆ แล้ว เรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีนไม่เกิน 6 สัปดาห์ และเท่าที่มีรายงานชัดเจน ไม่มีเคสไหนที่อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต จึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยว

เมื่อมาถึงหมอ ระหว่างทางจะต้องมีการปั๊มหัวใจ ซึ่งทำให้มีการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหัวใจได้ และหัวใจจะมีการปล่อยเอนไซม์ออกมาจากหัวใจ ซึ่งบางครั้งเราใช้บอกว่าหัวใจมีปัญหา

มีการอักเสบ แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าเอนไซม์ออกมาเพราะเราปั๊มหัวใจ หรือมันมีอาการอักเสบอยู่ตั้งแต่แรก ซึ่งส่วนตัวหมอไม่มีข้อมูล จึงไม่สามารถบอกได้ว่าอักเสบจริงหรือไม่

ถ้าจริง อาจจะมีไวรัสเข้าไปติดในหัวใจก่อน อย่างโควิดไวรัสก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้มากกว่าตัววัคซีนอีก ถ้ามันอักเสบก็อาจมีค่าการอักเสบในเลือดสูงขึ้น ก็จะตรวจค่าต่าง ๆ

ที่พอบอกได้ว่ามีการอักเสบของหัวใจและทั่วร่างกาย ซึ่งก็ต้องใช้ร่วมกับเอนไซม์ที่ออกมาจากหัวใจในการบอก แต่เอนไซม์ก็อาจจะออกมาจากการปั๊มได้จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูล

เครดิตแหล่งข้อมูล : ยูทูป Doctor Tany